PRAPAT ฟอร์มสวย ครึ่งปี 67 กำไร 27.17 ลบ. โต 6.47%

13/08/2567

PRAPAT ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 กวาดรายได้รวม 273.69 ล้านบาท โต 5.92% ขณะที่ครึ่งปีแรกโชว์รายได้รวม 553.03 ล้านบาท โต 4.81% หนุนกำไรสุทธิ 27.17 ล้านบาท โต 6.47% ส่งซิกแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง รับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น-อุตสาหกรรมท่องเที่ยวบูม มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้า

นางสาวรุ่งทิพย์ มีแม่นวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT เปิดเผยว่า บริษัทฯรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีรายได้รวม 273.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.92% และมีกำไรสุทธิ 8.50 ล้านบาท

สรุปผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 553.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.81% จากงวดเดียวของปีก่อน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ จำนวน 105.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.38% จากปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 27.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.47% จากช่วงเดียวของปีก่อน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 สามารถสร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจ เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์แม่บ้านและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น และกลุ่มค่าเช่าและค่าบริการ กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว มีอัตรารายได้เติบโตต่อเนื่อง

ขณะที่ แนวโน้มครึ่งหลังปี 2567 มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจการท่องเที่ยว ส่งผลให้มียอดสั่งซื้อเครื่องจักรและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบครบวงจรสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รายงานสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2567 มีจำนวนสะสม 20,604,703 คน ทำให้ลูกค้าของ PRAPAT ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและคาเฟ่ มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดเพิ่มขึ้น นับเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการเติบโตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

“ยอดขายที่เติบโตเป็นไปตามแผนที่วางไว้ในครึ่งแรกปี 2567 ทำให้บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยยังคงเป้าหมายการเติบโตปี 2567ตามเป้าที่กำหนด พร้อมรุกขยายฐานลูกค้าและต่อยอดกลยุทธ์การตลาด เพิ่มยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน” นางสาวรุ่งทิพย์ กล่าว